คันช่องคลอดปัญหาของผู้หญิงที่ไม่ควรมองข้าม

531
คันช่องคลอด
คันช่องคลอด

คันช่องคลอดเรื่องลับๆ ที่ผู้หญิงไม่ควรมองข้าม

คันช่องคลอดคงทำให้สาวๆ หลายคนรู้สึกรำคาญใจเอามากๆ โดยรู้หรือไม่ว่าสาเหตุของอาการคันช่องคลอดนั้นอาจเกิดจากการใส่กางเกงในที่รัดเกินไปไม่มีรูระบายอากาศที่เพียงพอ หรือว่าใส่กางเกงในที่อับชื้นซึ่งเมื่อเกิดการอับชื้นก็อาจจะทำให้เกิดเชื้อราในช่องคลอดได้ นั้นจะทำให้เกิดอาการคันช่องคลอดนั่นเอง หากผู้หญิงคนไหนอยากหายจากอาการดังกล่าว uHealthy.co จะมาบอกเคล็ดไม่ลับกำจัดเชื้อราในช่องคลอด ป้องกันอาการคันได้หายห่วงกันค่ะ

ปัญหาคันช่องคลอดเกิดจาก

คันช่องคลอด เป็นอาการคันในช่องคลอดหรือคันบริเวณอวัยวะเพศหญิงภายนอก โดยอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ และอาจจะเป็นสัญญาณของโรคต่างๆ ได้ เช่น โรคหนองในแท้ และโรคมะเร็งปากช่องคลอด เป็นต้น ซึ่งสาเหตุคันช่องคลอดเกิดจากปัญหาสุขภาพ และพฤติกรรมการใช้ชีวิต มีหลายสาเหตุดังนี้

-ผู้หญิงที่เข้าสู่วัยทอง ผู้หญิงวัยนี้จะไม่มีประจำเดือนหรือเรียกว่าวัยหมดประจำเดือนนั่นเอง ซึ่งเมื่อไม่มีประจำเดือนแล้วฮอร์โมนเอสโตรเจนก็จะลดลง ส่งผลทำให้ช่องคลอดมีเมือกเคลือบบางลง จนช่องคลอดแห้งและอาจจะทำให้เกิดอาการคันช่องคลอดและระคายเคืองช่องคลอดได้

-ผู้ที่เป็นโรคผิวหนัง เช่น โรคผิวหนังอักเสบ อาจมีผื่นแดงคัน และทำให้อาการลุกลามไปยังช่องคลอดได้

-ผู้ที่มีภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ภาวะนี้เกิดจากความไม่สมดุลกันของเชื้อแบคทีเรียทั้งชนิดที่ดีและไม่ดีที่อยู่ภายในช่องคลอด อาการที่สังเกตเห็นได้บ่อย คือ คันบริเวณช่องคลอด มีตกขาวและตกขาวยังมีกลิ่นเหม็น ลักษณะตกขาวจะบางเป็นสีขาวขุ่น

-บริเวณช่องคลอดติดเชื้อรา พบได้บ่อยในผู้หญิงการเป็นการเพิ่มจำนวนประชากรปริมาณของเชื้อราในช่องคลอดที่มากกว่าปกติโดยทั่วไป ทำให้สาวๆเกิดอาการคันช่องคลอด บ้างก็รู้สึกแสบร้อนบริเวณดังกล่าว และอาจมีตกขาวเป็นก้อนไหลออกมาด้วย ปัญหานี้เกิดจากการใช้ยาปฏิชีวนะเป็นเวลานาน โดยใครที่ทานยาปฏิชีวนะบ่อยๆยาตัวนี้จะทำลายแบคทีเรียชนิดดีในร่างกายของเราที่จะสามารถช่วยควบคุมจำนวนประชากรปริมาณเชื้อราในช่องคลอดได้

-มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งโดยส่วนมากจะเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน และส่งผลให้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ยกตัวอย่างเช่น การติดเชื้อทริโคโมแนส, หนองในแท้, หนองในเทียม, หูด และเริม เป็นต้น โรคเหล่านี้จะทำให้เกิดอาการคันช่องคลอดได้เช่นกัน

-ผู้ที่เป็นมะเร็งปากช่องคลอด โดยจะมีอาการคันบริเวณช่องคลอด ซึ่งอาจจะเป็นสัญญาณเตือนภัยร้ายของมะเร็งปากช่องคลอดได้ โรคนี้อาจปรากฏอาการหรือไม่ปรากฏอาการใดเลยก็ได้ แต่ส่วนมากแล้วผู้ป่วยโรคนี้มักจะมีอาการคันช่องคลอด อีกทั้งยังมีเลือดออก ทำให้รู้สึกเจ็บบริเวณปากช่องคลอดอีกด้วย หากตรวจพบเร็วและมะเร็งยังไม่ลุกลามมากนัก ก็สามารถรักษาให้หายขาดได้

วิธีบรรเทาอาการหรือลดการคัดช่องคลอด

-ล้างทำความสะอาดบริเวณจุดซ่อนเร้นให้สะอาดโดยใช้น้ำอุ่น หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่ระคายเคืองผิว หลังจากนั้นก็ซับให้แห้งเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา

-ไม่ควรใส่เสื้อผ้าที่เปียกเป็นระยะเวลานาน หากรู้สึกเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มที่สวมใส่มีความชื้นหรือเปียกให้เปลี่ยนทันที

-รับประทานอาหารมีจุลินทรีย์มีชีวิต เช่น โยเกิร์ตเพื่อที่จะลดการติดเชื้อราในช่องคลอดนั่นเอง

-เปลี่ยนมาใส่ชุดชั้นในที่ทำจากผ้าฝ้าย และไม่ควรใส่ชุดชั้นในซ้ำๆ

-ป้องกันตัวเองโดยใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเวลามีเพศสัมพันธ์

-หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมที่ใช้สำหรับจุดซ่อนเร้นโดยเฉพาะ

-ไม่ควรเกาผิวหนังบริเวณจุดซ่อนเร้น เนื่องจากจะทำให้เกิดการระคายเคือง

-เมื่อมีประจำเดือนให้หมั่นเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ และล้างทำความสะอาดซับให้แห้งทุกครั้งหลังทำธุระเสร็จ

อาการแบบนี้ถึงเวลาต้องไปพบแพทย์

คันช่องคลอดอย่างรุนแรง โดยเฉพาะภายในช่องคลอด ให้สังเกตดูว่าจะมีอาการบวมแดง และการตกขาวจะมีลักษณะผิดปกติ อีกอาการที่สังเกตได้ง่ายๆ คือ มีความรู้สึกเจ็บขัดขณะปัสสาวะทำธุระหรือมีเพศสัมพันธ์

ยารักษาสำหรับอาการคันช่องคลอด

-ยาทาน เช่น ยาในกลุ่ม Metronidazole และClindamycin ยาทานตัวนี้จะใช้รักษาอาการคันช่องคลอดเนื่องจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ส่วน Fluconazole จะใช้รักษาอาการคันช่องคลอดเนื่องจากการติดเชื้อรา

-ยาทาภายนอก เช่น Clotrimazole, Miconazole และ Tioconazole ยาสามตัวนี้จะช่วยบรรเทาอาการคันช่องคลอดเนื่องจากการติดเชื้อรา

-ยาเหน็บช่องคลอด สำหรับใช้สอดเข้าไปข้างในช่องคลอด โดยตัวยาจะละลายหลังจากสอดเข้าไป จากนั้นจะออกฤทธิ์โดยตรงบริเวณช่องคลอด เช่น Clotrimazole

กล่าวโดยสรุป

อาการคันช่องคลอด เป็นอาการคันในช่องคลอดหรือคันบริเวณอวัยวะเพศหญิงภายนอก โดยอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งสาเหตุคันช่องคลอดเกิดจากปัญหาสุขภาพ และพฤติกรรมการใช้ชีวิต และอาจจะเป็นสัญญาณของโรคต่างๆ เช่น โรคหนองในแท้ และโรคมะเร็งปากช่องคลอด ได้  วิธีการดูแลบรรเทาอาการคัดช่องคลอดเบื้องต้นเช่น ล้างทำความสะอาดบริเวณจุดซ่อนเร้นให้สะอาด ไม่ควรใส่เสื้อผ้าที่เปียกเป็นระยะเวลานาน รับประทานอาหารมีจุลินทรีย์มีชีวิต อย่างเช่น โยเกิร์ต เปลี่ยนมาใส่ชุดชั้นในที่ทำจากผ้าฝ้าย และไม่ควรใส่ชุดชั้นในซ้ำๆ ป้องกันตัวเองโดยใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเวลามีเพศสัมพันธ์ เป็นต้น แต่ถ้าหากมีอาการคันช่องคลอดเกิดขึ้นจนทำให้รู้สึกกังวลใจเอามากๆ uHealthy.co แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุเพื่อที่จะได้รับการรักษาอย่างถูกต้องดีกว่าค่ะ

แล้วพบกันใหม่กับสาระดี ๆในบทความเพื่อสุขภาพ เรื่องราวการดูแลสุขภาพจาก uHealthy.co  ในบทความต่อไปนะคะ