บัวหิมะ กับ 5 ประโยชน์ เหมาะกับคนที่กำลังต้องการลดน้ำหนัก

942
บัวหิมะ

บัวหิมะมีความโดดเด่นในเรื่องของการบำรุงผิวพรรณและความงาม ผลิตภัณฑ์และเครื่องสำอางมากมายต่างก็มีพืชชนิดนี้เป็นส่วนประกอบ แต่รู้หรือไม่ ว่าเราสามารถนำรากบัวหิมะมารับประทานได้ด้วย และก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพไม่แพ้กัน แต่ก่อนที่เราจะไปรู้จักกับประโยชน์ของบัวหิมะนั้น เราไปทำความรู้จักกับพืชชนิดนี้กันก่อนดีกว่า

และบทความนี้จะบอกถึง 5 ประโยชน์ของบัวหิมะ ที่เหมาะกับคนที่กำลังต้องการลดน้ำหนักอย่างไม่น่าเชื่อ

บัวหิมะ คืออะไร

บัวหิมะ หรือ Yacon เป็นพืชสมุนไพรประเภทมีหัว อยู่ในตระกูลเดียวกันกับทานตะวัน ถูกนำมาใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ยาวนานกว่า 100 ปี มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบทวีปอเมริกาใต้ บริเวณเทิอกเขาแอนเดียส ซึ่งในปัจจุบันมีหลายประเทศที่นำพืชชนิดไปเพาะปลูก จะเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่อยู่สูงและมีอากาศเย็น เมื่อเจริญเติบโตเต็มที่ ลำต้นจะสูงประมาณ 2 – 3 เมตร

ส่วนบริเวณรากของบัวหิมะที่เรานำมารับประทานกันนั้น จะมีรูปร่างคล้ายกับมันเทศ เปลือกมีสีน้ำตาล เนื้อด้านในมีสีเหลืองอ่อน ฉ่ำน้ำ และกรอบ สามารถรับประทานแบบสดๆได้เลย รสชาติหวานอร่อย ให้ความสดชื่นคล้ายกับแอปเปิ้ลและแตงโมรวมกัน ทำให้รับประทานได้ง่ายเหมือนกับผลไม้ทั่วไป นอกจากนั้นบัวหิมะยังเต็มไปด้วยสารอาหารมากมาย เช่น วิตามินซี สารต้านอนุมูลอิสระ แคลเซียม โพแทสเซียม และฟอสฟอรัส เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็นพืชที่เหมาะกับการนำมารับประทานเป็นของว่างเพื่อสุขภาพมากๆเลยก็ว่าได้

บัวหิมะ

ประโยชน์ของการรับประทานบัวหิมะ

1. ช่วยลดและควบคุมน้ำหนักได้

ใครที่กำลังมองหาอาหารเพื่อสุขภาพที่ช่วยลดหรือควบคุมน้ำหนักให้คงที่ น่าจะต้องถูกใจประโยชน์ข้อนี้ของบัวหิมะมากแน่ๆ เพราะบัวหิมะนั้นให้แคลอรี่ต่ำ โดยผลบัวหิมะ 100 กรัม มีพลังงาน 54 กิโลแคลอรี และน้ำตาลจากธรรมชาติของบัวหิมะมีส่วนช่วยลดน้ำหนักได้ มีไขมันเป็นส่วนประกอบน้อยมาก นอกจากนั้นยังมีแป้งประเภท fructooligosaccharide เป็นส่วนประกอบ ซึ่งเป็นประเภทที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ จึงไม่ให้พลังงานแก่ร่างกายแต่อย่างใด ทั้งยังมีปริมาณใยอาหารค่อนข้างสูง ทำให้เมื่อรับประทานเข้าไปจะรู้สึกอิ่มไว เหมาะสำหรับนำไปรับประทานเป็นของว่างระหว่างมื้อมากๆ

2. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด

หากใครกำลังกังวลเรื่องระดับน้ำตาลในเลือด ต้องการควบคุมให้อยู่ในระดับที่ปกติ รากของบัวหิมะอาจช่วยคุณได้ เพราะรสชาติหวานของรากบัวหิมะนั้นไม่ได้มาจากน้ำตาล แต่มาจากแป้งที่มีรสชาติหวานคล้ายน้ำตาลอย่าง fructooligosaccharide นั่นเอง ซึ่งเป็นแป้งที่ร่างกายของเรานั้นไม่สามารถย่อยได้ ดังนั้น การรับประทานบัวหิมะจึงไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น นับว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องการทานของว่างที่มีรสหวานเลยก็ว่าได้

3. ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย

เนื่องจากบัวหิมะมีมีแป้งประเภท fructooligosaccharide ที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้เป็นส่วนประกอบ ทำให้มีปริมาณใยอาหารค่อนข้างสูง นอกจากนั้นแป้งชนิดนี้ยังเป็นใยอาหารประเภท Prebiotic ซึ่งเป็นอาหารชั้นดีของแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในลำไส้ ส่งผลให้แบคทีเรียที่มีประโยชน์เพิ่มจำนวนมากขึ้น ช่วยกระตุ้นให้ระบบการขับถ่ายทำงานได้ดี ยับยั้งการเพิ่มจำนวนแบคทีเรียที่ไม่ดีที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ และยังช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารได้มากขึ้นอีกด้วย

4. ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล

นอกจากบัวหิมะจะมีปริมาณไขมันต่ำแล้ว แป้งประเภท fructooligosaccharide ก็ยังมีส่วนช่วยลดระดับของคอเลสเตอรอลซึ่งเป็นไขมันชนิดไม่ดีในร่างกายได้อีกด้วย ช่วยดักจับทั้ง triglyceride และ LDL (Low – density lipoprotein) ที่มีอยู่ในอาหารไม่ให้เข้าสู่เส้นเลือด ช่วยป้องกันไม่มีการสะสมของไขมันบริเวณเส้นเลือดต่างๆ ช่วยให้ระบบการไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจประเภทต่างๆน้อยลงตามไปด้วย

5. ช่วยลดโอกาสในการเป็นโรคมะเร็ง

ด้วยความที่ร่างกายของเราจะมีการผลิตสารอนุมูลอิสระอยู่ตลอด และสารนี้จะทำให้เกิดปฏิกิริยา Oxidation ที่เป็นสาเหตุให้เซลล์ต่างๆภายในร่างกายเกิดความผิดปกติและเกิดการเสื่อมสภาพได้ไวขึ้น ส่งผลให้เกิดโรคต่างๆได้ง่ายขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น สารต้านอนุมูลอิสระที่อยู่ในบัวหิมะจะช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์เกิดความผิดปกติ และช่วยชะลอให้เซลล์ต่างๆเสื่อมสภาพได้ช้าลง นอกจากนั้นยังส่งผลให้ผิวพรรณของคุณเกิดริ้วรอยได้ช้าอีกด้วย

ข้อควรระวังสำหรับการรับประทานบัวหิมะ

สำหรับใครที่ต้องการรับประทานรากของบัวหิมะเพื่อลดน้ำหนักและลดความเสี่ยงของการเป็นโรคต่างๆ จะต้องระมัดระวังในเรื่องของปริมาณที่รับประทานเข้าไปด้วย เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมา ได้แก่

  1. อาจเกิดอาการภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลันในบางคน เพราะมีผลการศึกษาในปี 2018 พบว่ามีบางคนเกิดอาการแพ้รุนแรงหลังจากที่รับประทานรากบัวหิมะเข้าไป
  2. การรับประทานรากบัวหิมะมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ คลื่นไส้ ไม่สบายตัว และท้องร่วงได้

เป็นอย่างไรกันบ้างกับประโยชน์ของบัวหิมะที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน นอกจากจะมีรสชาติหวานอร่อย และสามารถนำมารับประทานเป็นของว่างเพื่อสุขภาพได้แล้ว ยังมีส่วนช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนัก ช่วยลดระดับน้ำตาลและคอเลสตอรอล ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย และยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดต่างๆได้อีกด้วย แต่จะต้องระมัดระวังในการรับประทาน เพราะอาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมาได้

คลิปวีดีโอจากรายการ ตามอำเภอจาน

ขึ้นเขาตามไปขุด ‘บัวหิมะ’ พืชมหัศจรรย์ จ.เชียงใหม่

รายการ ตามอำเภอจาน ดำเนินรายการโดย คุณอโนชา ศิริจร และ คุณเฉลิมพล ตันติ์ทวิสุทธิ์ สัปดาห์นี้ จะพาขึ้นที่สูงตามไปขุด บัวหิมะ กันที่ บ้านหลวง ดอยอ่างขาง ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ จากนั้นเข้าครัวทำเมนูจากบัวหิมะจากชาวจีนยูนนาน ติดตามเมนูชวนหิวได้ในรายการ

ขอบคุณคลิปจาก youtube : อมรินทร์ทีวี

รวมบทความดีๆ เกี่ยวกับสุขภาพ การออกกำลัง โรคและการป้องกัน สาระดีๆ ที่ต้องรีบแชร์ต่อ
uHealthy.co ( ยู เฮลท์ตี้ )