คำฝอย มันดีต่อร่างกายของเราอย่างไรทุกคนอยากรู้หรือไม่ คำฝอยเป็นดอกไม้ที่จัดอยู่ในกลุ่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพ แน่นอนเลยว่าสรรพคุณของดอกคำฝอยต้องดีต่อร่างกายจริงแท้แน่นอน แล้วคำฝอยมีสรรพคุณที่ดีอย่างไร วันนี้ทาง uHealthy.co มีคำตอบมาให้ทุกคนกันค่ะ
คำฝอย มีชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Carthamus tinctorius เป็นไม้ล้มลุก ซึ่งอยู่ในวงศ์ทานตะวัน Asteraceae มีความสูงประมาณ 40-130 เซนติเมตร
คำฝอยสรรพคุณมากมายที่อาจไม่รู้มาก่อน สรรพคุณคำฝอยดี จริงแท้แน่นอน
ลักษณะของคำฝอย
มีลำต้นเป็นสันแตกกิ่งก้านเป็นจำนวนมาก ใบเดี่ยวเรียงไปมาสลับเป็นรูปวงรี ขอบใบมีลักษณะหยักฟันเลื่อย มีปลายหนามแหลม ใบของคำฝอยแข็งเป็นหนาม เพื่อรองรับช่อดอก เป็นดอกช่อ โดยมีดอกย่อยขนาดเล็ก ๆ อีกจำนวนมากที่ปลายยอด สีของดอกเป็นสีเหลืองอ่อน หลังจากนั้นจะเปลี่ยนเป็นสีแดง ส่วนตัวผลแห้งไม่แตก และมีเมล็ดเป็นรูปทรงสามเหลี่ยม สีขาว ขนาดไม่ใหญ่
สรรพคุณของคำฝอย
สรรพคุณของคำฝอยเป็นสมุนไพรโบราณ ที่ใช้บำรุงร่างกายกันมานาน แบ่งออกเป็นข้อๆดังนี้
- บำรุงหัวใจ ดอกคำฝอยมีสรรพคุณในการบำรุงหัวใจ จากการศึกษาทางเภสัชวิทยาพบว่า ดอกคำฝอยมีสารต้านอนุมูนอิสระชนิดฟลาโวนอนด์ และอัลคาลอยด์ รวมทั้งศาลสีในกลุ่ม QUINOCHALCONE ซึ่งมีส่วนช่วยในการปกป้องหัวใจและหลอดเลือดในกลุ่มสัตว์ทดลองด้วย จากการศึกษาที่ชาวจีนศึกษา พบว่าดอกคำฝอยมีส่วนช่วยป้องกันโรคหัวใจ เพราะทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจมากขึ้น ช่วยในด้านการขาดเลือดของหัวใจพร้อมทั้งป้องกันสภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบแคบลง
- ลดไขมันในเลือด จากการศึกษา พบว่าสารสกัดจากดอกคำฝอยมีสารต้านอนุมูนอิสระที่มีสรรพคุณช่วยลดไขมันในเลือด ป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้ โดยใช้ดอกคำฝอยแห้ง 2.5 กรัมชงกับน้ำร้อนครึ่งแก้วประมาณ 100 CC ดื่มเป็นชาคำฝอยได้เลยจะได้ประโยชน์มากมายในการช่วยลดไขมันในเลือดได้เป็นอย่างดี
- บำรุงโลหิตและแก้อาการปวดประจำเดือน ดอกคำฝอยเป็นยาบำรุงเลือดของผู้หญิงที่ดีมากเพราะว่ามีฤทธิ์อุ่นจึงมีตำรับยาสมุนไพรที่ใช้ดอกหรือกลีบจากดอกคำฝอยมาบำรุงโลหิตขับเลือดขับระดูคั่งค้างให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ ลดอาการปวดประจำเดือน ปวดท้องน้อยได้ดี โดยนำดอกคำฝอยแห้งมาชงเป็นชาไว้ดื่มในช่วงประจำเดือนมา หรือจะดื่มเพื่อช่วยขับน้ำคาวปลาหลังคลอด และทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นได้
- แก้การปวดขัดตามข้อต่างๆ เราสามารถนำน้ำมันสกัดจากเมล็ดดอกคำฝอยมาทาแก้บรรเทาอาการปวดบวมแก้ขัดตามข้อต่างๆ เพราะน้ำมันสกัดจากเมล็ดดอกคำฝอยมีฤทธิ์ลดอาการอักเสบและลดอาการบวมได้
- ขับเสมหะ บางคนไอและมีเสมหะมาก การที่เราไอและมีเสมหะมากนั้นต้องให้ร่างกายขับเสมหะออกมาไม่งั้นเชื้อโรคมันก็จะอยู่ในส่วนนั้น และที่สำคัญโดยเฉพาะคนที่เป็นหวัดถ้ามีเสมหะควรดื่มน้ำมากๆ และถ้าเราทานชาคำฝอยด้วยจะดี เพราะจะขับเสมหะออกมาได้ เสมหะก็จะไม่ตกค้างอยู่ข้างใน เมล็ดดอกคำฝอยมีสรรพคุณช่วยขับเสมหะเนื่องจากมีสารต้านอาการอักเสบและมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อบางตัว
- รักษาแผลฟกช้ำ ดอกคำฝอยบางคนก็จะเอามาแช่เหล้า หรือจะนำดอกคำฝอยมาตำแล้วพอกบริเวณแผล ฟกช้ำ ดำ เขียว เป็นสูตรของคนโบราณซึ่งบอกเลยว่าได้ผลดีมาก
- รักษาโรคหวัด ชาดอกคำฝอยนำมาชงดื่มร้อนร้อนช่วยแก้หวัดน้ำมูกไหลได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญคือดอกคำฝอยยังมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆจะแก้อาการท้องผูกได้
- รักษาโรคผิวหนัง นำดอกคำฝอยมาต้มน้ำอาบแก้การคันตามผิวหนัง แก้การโรคหัด แก้อาการแสบร้อนตามผิวหนัง และช่วยบำรุงน้ำเหลืองให้ปกติ
ข้อควรระวังของดอกคำฝอย
คนที่ตั้งครรภ์หรือสตรีมีครรภ์ไม่ควรดื่มชาดอกคำฝอยหรือผลิตภัณฑ์จากดอกคำฝอยเพราะดอกคำฝอยมีสรรพคุณขับเลือดซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะแท้งบุตรได้
การชงชาดอกคำฝอย
1.เตรียมน้ำสะอาด 500 มิลลิลิตร
2.ดอกคำฝอยแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ
3.ดอกเก๊กฮวยแห้ง 5- 10 ดอก (ใส่เข้าไปเพื่อให้กลิ่นหอม)
4.น้ำเชื่อม
วิธีการชงชาดอกคำฝอย
1.ใส่น้ำลงในหม้อเปิดไฟพอน้ำเดือดก็ใส่ดอกคำฝอยแห้งลงไป แล้วก็ตามด้วยดอกเก็กฮวยเพื่อให้ความหอม รอสักครู่หนึ่งจนสีน้ำเริ่มเปลี่ยน ลดไฟให้อ่อนลงและต้มต่ออีกสักครู่ เพราะจะทำให้น้ำที่ออกมาได้คุณค่ามากที่สุด
2.จากนั้นยกลงจากเตา กรองเอากากออกให้หมด
3.ใส่น้ำเชื่อมลงไปเล็กน้อย หรือถ้าใครไม่ใส่ได้จะดีมาก
4.ตักน้ำดอกคำฝอยใส่คนผสมให้เข้ากันกับน้ำเชื่อม
กล่าวโดยสรุป
คำฝอย มีชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Carthamus tinctorius เป็นไม้ล้มลุก ซึ่งอยู่ในวงศ์ทานตะวัน Asteraceae มีความสูงประมาณ 40-130 เซนติเมตร และสรรพคุณประโยชน์ของคำฝอยมีมากมาย เช่น ช่วยขับระดู, บำรุงระบบประสาท, บำรุงระบบหัวใจ, บำรุงระบบโลหิต, รักษาอาการตกเลือด, แก้ดีพิการ, ช่วยขับเหงื่อ, ระงับประสาท, ช่วยเรื่องข้ออักเสบ, รักษาโรคหวัด, มีน้ำมูก อีกทั้งดอกยังเป็นยาชงใช้ดื่มแก้โรคดีซ่าน, ใช้ต้มอาบเวลาออกหัด, รักษาอาการคัน เป็นต้น
แม้ว่าคำฝอยจะให้สรรพคุณที่ดีมากมายหลายอย่างแต่ก็ต้องทานอย่างอื่นหมุนเวียนด้วยนะคะ ที่สำคัญร่างกายคนเราต้องได้รับสารอาหารครบห้าหมู่ และอะไรก็ตามที่มันมีประโยชน์มากเกินไปมันก็ไม่ดีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นควรจะทานให้พอดีในปริมาณที่เหมาะสม และทานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ร่างกายไม่เกิดการสะสมของสารสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินไปค่ะ
แล้วพบกันใหม่กับสาระดี ๆในบทความเพื่อสุขภาพ เรื่องราวการดูแลสุขภาพจาก uHealthy.co ในบทความต่อไปกันนะคะ
