ปวดท้องตรงกลาง เกิดจากสาเหตุอะไร เป็นสัญญาณบอกโรคหรือไม่

647
ปวดท้อง
ปวดท้อง

วันนี้ uHealthy.co จะมาคุยกันเรื่องอาการปวดท้องตรงกลาง ปวดท้องตรงกลางเกิดจากสาเหตุอะไร เป็นสัญญาณบอกโรคหรือไม่ อาการปวดท้องพบได้ในทุกเพศทุกวัยมีสาเหตุที่แตกต่างกันออกไปโดยเฉพาะการปวดท้องตรงกลาง เป็นอาการที่หลายคนน่าจะเคยเป็นกันบ่อยๆ หากใครที่ปวดท้องตำแหน่งดังกล่าวเป็นประจำยิ่งต้องหาสาเหตุให้เจอเพราะอาจเป็นสัญญาณบอกโรคต่างๆได้ ปวดท้องตรงกลางสัญญาณบอกโรคที่ไม่ควรมองข้ามเกิดจากสาเหตุอะไร อาการปวดท้องตรงกลางเป็นความผิดปกติของอวัยวะบริเวณส่วนท้องภายในร่างกายตำแหน่งของการเกิดโรคสามารถบอกสาเหตุของอาการได้ ซึ่งการปวดท้องก็มีระดับความหนักเบาที่แตกต่างกันออกไปจะมีโรคอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ

ปวดท้องตรงกลางเกิดจากสาเหตุอะไร เป็นสัญญาณบอกโรคหรือไม่

เมื่อรู้สึกปวดท้องเป็นเวลานานเพราะอาจส่งผลให้มีอาการข้างเคียงอื่นๆตามมาอีกด้วย เช่น รู้สึกจุก ท้องเสีย วิงเวียน คลื่นไส้รวมถึงปวดหลัง ปวดเอว การรู้จักสังเกตอาการต่างๆขณะปวดท้องจะช่วยให้รู้สาเหตุของโรคในเบื้องต้นได้ดังนี้

1.โรคกระเพาะอาหารอักเสบ ปวดท้องตรงกลางใต้สะดือ ใครที่ปวดท้องบริเวณใต้สะดือบริเวณช่องท้องส่วนล่างเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น การยกของหนัก ออกกำลังกายโดยใช้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องมากเกินไป ซึ่งสามารถกินยาคลายกล้ามเนื้อเพื่อบรรเทาอาการได้ หากมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับการปัสสาวะร่วมด้วยก็อาจเป็นสัญญาณของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้เช่นกัน หรือมีอาการปวดท้องบิด ไข้สูง หนาวสั่น ปวดแสบขัดเมื่อปัสสาวะ อาจเป็นสัญญาณของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้เช่นกัน ในบางรายจะรู้สึกมวนท้องคลื่นไส้ไม่อยากกินอาหาร บ้างก็ปวดท้องตรงกลางจุกๆ หากรู้สึกว่าปวดท้องแบบจุกๆ เสียดๆ รวมถึงมีอาการแสบท้องร่วมด้วยเป็นไปได้ว่าเป็นสัญญาณของโรคกระเพาะอาหารอักเสบ บางคนอาจจะปวดท้องตรงกลางเป็นๆหายๆ หรือเกิดเฉพาะตอนท้องว่าง รู้สึกหิวกินอาหารผิดเวลา หากไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก็อาจนำไปสู่โรคกดไหลย้อน ซึ่งควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยโรค

กรดไหลย้อน

2.โรคกรดไหลย้อน ทำให้รู้สึกแสบร้อนกลางซึ่งจากอาการกำเริบทันทีหลังกินอาหารเสร็จแต่ละมื้อสามารถอ่านศึกษาข้อมูลเรื่องกรดไหลย้อนเพิ่มเติมได้ที่ https://uhealthy.co/208

3.โรคลำไส้อักเสบ ปวดท้องตรงกลาง ท้องเสีย คลื่นไส้ อาการปวดท้องตรงกลางจนทำให้รู้สึกคลื่นไส้ และท้องเสีย หากเป็นประจำอาจสามารถบ่งชี้อาการเริ่มต้นของโรคต่างๆได้ เช่นลำไส้อักเสบ จะรู้สึกปวดท้องบริเวณรอบรอบสะดือเป็นๆหายๆอันเกิดจากลำไส้เล็กทำงานผิดปกติ หรือมีอาการปวดท้องตรงกลาง บิดๆ อาการปวดท้องแบบบิดๆ อาจเกิดจากโรคลำไส้อักเสบ ซึ่งจะมีอาการถ่ายเหลว และท้องเสียร่วมด้วย ควรจะหันไปกินอาหารอ่อนที่ปรุงสุกสะอาด ดื่มน้ำสะอาดมากๆ กินยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการปวดในเบื้องต้น รวมถึงพักผ่อนให้เพียงพอ งดยกของหนักทุกชนิด ในบางรายอาจเป็นไส้ติ่งอักเสบทำให้รู้สึกคลื่นไส้ ปวดท้องเหมือนจะท้องเสียแต่ไม่รู้สึกอยากขับถ่าย แนะนำว่าควรไปพบแพทย์ทันที

4.โรคตับอ่อนอักเสบ ปวดท้องตรงกลางเหนือสะดือ หากรู้สึกว่าปวดท้องบริเวณเหนือสะดือกลางตัวและใต้ลิ้นปี่เป็นสาเหตุความผิดปกติของตับอ่อน กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี หรือหลอดอาหารในบางรายที่ปวดรุนแรงเป็นประจำคลื่นไส้อาจเกี่ยวข้องกับโรคตับอ่อนอักเสบได้ควรรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรค

5.โรคกรวยไตอักเสบ ปวดท้องตรงกลาง ปวดหลัง หากรู้สึกว่าปวดท้องเรื้อรังเป็นระยะเวลานานหลายคนมักจะรู้สึกปวดหลัง เป็นผลของอาการข้างเคียงเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย จริงๆแล้วอาการปวดท้องจะมีหลายสาเหตุหากส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน เพราะอาการปวดท้องตรงกลางลามมาปวดหลังอาจเป็นสัญญาณของโรคกรวยไตอักเสบซึ่งจะแสดงอาการร่วมกับการมีปัสสาวะสีขุ่น มีไข้ หนาวสั่น

วิธีรักษาอาการปวดท้องตรงกลางควรกินยาอะไร

อาการปวดท้องตรงกลางมีหลายสาเหตุเกิดจากพฤติกรรมต่างๆของผู้ป่วยเองรวมถึงเป็นสัญญาณบอกโรคที่ไม่ควรมองข้าม หากอาการไม่รุนแรงเกิดจากปัจจัยที่คาดเดาได้ปรึกษาเภสัชกรก่อนใช้ยาบรรเทาอาการ เช่น ยาแก้ปวด ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาแก้จุกเสียดแน่นท้อง ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร แต่หากมีอาการเรื้อรัง หรือรุนแรงเฉียบพลันก็อย่านิ่งนอนใจควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยจะได้หาทาง หรือแนวทางการรักษาที่ถูกต้องและปลอดภัยค่ะ

อาการปวดท้องตรงกลางเป็นอุปสรรคต่อการทำงานในชีวิตประจำวัน และอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้ ให้สังเกตอาการตนเองเสมอเพื่อจะได้รักษาอาการได้ทันท่วงที

กล่าวโดยสรุป

และนี่คือ 5 โรคที่ท่านต้องระวังเมื่อท่านมีอาการปวดท้องตรงกลางซึ่งมี 5 โรคดังนี้ โรคกระเพาะอาหารอักเสบ โรคกรดไหลย้อน โรคลำไส้อักเสบ โรคตับอ่อนอักเสบ และโรคกรวยไตอักเสบ ซึ่งหากมีอาการดังกล่าวของแต่ละโรคอาจจำเป็นต้องพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจทำการอัลตร้าซาวด์ ทำการตรวจภายในก็จะบ่งบอกได้ว่าท่านเป็น 5 โรคที่ต้องระวังเมื่อปวดท้องตรงกลางหรือเปล่าซึ่งมันมีวิธีการรักษาโดยเฉพาะของมันค่ะ อาการเหล่านี้เมื่อรู้เร็ว ไปหาแพทย์เร็ว รักษาเร็วก็จะหายเร็วเช่นกันนะคะ

แล้วพบกันใหม่กับสาระดี ๆในบทความเพื่อสุขภาพ เรื่องราวการดูแลสุขภาพจาก uHealthy.co  ในบทความต่อไปกันค่ะ