อยากแข็งแรงต้องเลี่ยง 7 สิ่งทำร้ายระบบภูมิคุ้มกัน

548

อยากแข็งแรงต้องเลี่ยง 7 สิ่งทำร้ายระบบภูมิคุ้มกัน

ระบบภูมิคุ้มกัน หรือ Immune System เปรียบเสมือนองครักษ์ที่คอยปกป้องร่างกายจากเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ  และยังเป็นระบบที่สัมพันธ์กับสุขภาพของเราโดยตรง ยิ่งระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงมากเท่าไร ร่างกายก็จะปกป้องเราจากไวรัสและโรคต่าง ๆ ได้มากขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม นิสัยประจำวันส่วนใหญ่สามารถส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง โดยเฉพาะเมื่อเราอายุมากขึ้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องดูแลตัวเอง โดยพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำร้ายระบบภูมิคุ้มกัน ลองมาดูพร้อมกันเลยดีกว่าว่ามีพฤติกรรมอะไรบ้างที่ทำให้ภูมิคุ้มกันของเราอ่อนแอ

1.ทานน้ำตาลมากเกินไป

การได้ของหวานมาช่วยเยียวยาในวันที่มีเรื่องเครียดอาจทำให้หลายคนอารมณ์ดีขึ้น แต่ถ้าไม่ควบคุมการทานให้ดี ก็อาจส่งผลต่อภูมิคุ้มกันของเราได้ เพราะมีการค้นพบว่า การทานน้ำตาลมากเกินพอดีจะไปลดความสามารถของระบบภูมิคุ้มกันที่จะไปต่อสู้กับเชื้อโรคมากถึง 40% ดังนั้นเราควรจำกัดปริมาณน้ำตาลที่ทานต่อวันให้เหมาะสม ซึ่งองค์การอนามัยโลกแนะนำให้ผู้ใหญ่ทานน้ำตาลไม่เกินวันละ 6 ช้อนชา อย่างไรก็ดี ถ้าอยากเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ก็ให้ทานอาหารที่มีวิตามินซีสูง ซึ่งพบได้มากในผักและผลไม้ เช่น ส้ม มะนาว ฝรั่ง สตรอว์เบอร์รี พริกหวาน คะน้า ผักโขม ฯลฯ

2.บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

การดื่มเหล้า เบียร์ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดอื่น ๆ สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมสารอาหารที่จำเป็น ส่งผลให้เกิดภาวะขาดสารอาหาร ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป ก็จะไปขัดขวางการเพิ่มจำนวนของเซลล์เม็ดเลือดขาว ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

3.นอนไม่เพียงพอ

การพักผ่อนอย่างเพียงพอมีส่วนช่วยให้ภูมิคุ้มกันของเราแข็งแรงขึ้น ซึ่งมีงานวิจัยของ The University of Chicago ได้ศึกษารูปแบบการนอนของคน โดยสรุปได้ว่า ร่างกายของคนที่นอนน้อยกว่าหรือเท่ากับ 4 ชั่วโมง จะผลิตแอนติบอดีเพื่อต่อสู้กับโรคหวัดได้น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของคนที่นอนอย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวัน

4.ความเครียด

ความเครียดสามารถส่งผลเสียต่อทั้งร่างกายและจิตใจ ระบบภูมิคุ้มกันจะเริ่มอ่อนแอเมื่อเราตกอยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดต่อเนื่องเป็นเวลานาน มีภาวะซึมเศร้า หรือกำลังเผชิญกับเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจ ส่งผลให้จำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาวลดลง ทำให้ความสามารถในการต่อสู้กับไวรัสและเชื้อโรค และการรับมือกับการติดเชื้อแย่ลง

5.ใช้ยาปฏิชีวนะมากเกินไป

ยาปฏิชีวนะมีคุณสมบัติในการรักษาการติดเชื้อที่ร้ายแรง แม้ว่ายาชนิดนี้มีประสิทธิผลมาก แต่หากทานยาปฏิชีวนะบ่อยเกินไป ร่างกายก็จะดื้อต่อยาเหล่านี้ ส่งผลให้เรามีแนวโน้มที่จะติดเชื้อหรือเป็นโรคง่ายขึ้น ซึ่งมีงานวิจัยหลายชิ้นพบว่า คนที่ทานยาปฏิชีวนะเป็นประจำจะมีระบบภูมิคุ้มกันที่แย่ลงและป่วยบ่อยขึ้น ดังนั้นหากจำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ ก็ควรอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ และไม่ซื้อยาทานเอง

6.ใช้ชีวิตแบบเนือยนิ่ง

การใช้ชีวิตแบบนั่ง ๆ นอน ๆ และการไม่ได้ออกกำลังกายอย่างเพียงพอ สามารถทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมามากมาย ซึ่งมีคนจำนวนไม่น้อยที่เผชิญกับโรคอ้วน โรคหัวใจและหลอดเลือด ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และเป็นโรคอื่น ๆ ทั้งนี้เมื่อเราไม่ได้ออกกำลังกายอย่างเพียงพอ ทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพหรือได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ และไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกายในระหว่างวัน ก็จะทำให้เกิดสารพิษและความเครียด ส่งผลให้มีโอกาสเจ็บป่วยมากขึ้น

7.นิโคติน

ไม่ว่าจะสูบบุหรี่แบบปกติ หรือบุหรี่ไฟฟ้า (E-Cigarettes) ร่างกายก็จะยังคงได้รับสารนิโคติน ซึ่งสามารถทำร้ายระบบภูมิคุ้มกันของเราได้ ทั้งนี้นิโคตินจะทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลในร่างกายเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันสารชนิดนี้ก็จะไปลดการผลิตแอนติบอดีชนิด B-cell และลดการตอบสนองของ T-cells ที่มีต่อแอนติเจน นอกจากนี้นักวิจัยยังเตือนด้วยว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายต่อร่างกาย เพราะว่าเราสามารถพบอนุมูลอิสระได้ในไอของบุหรี่ชนิดนี้ ซึ่งสามารถทำให้เกิดการอักเสบที่ทางเดินหายใจ และทำให้การตอบสนองต่อแบคทีเรียและไวรัสแย่ลง

 

หากร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง แน่นอนว่าคุณก็จะอยู่ห่างไกลจากโรคร้ายต่าง ๆ ใครที่รู้ตัวว่ามีพฤติกรรมตามที่กล่าวไปข้างต้น ถ้าอยากมีร่างกายที่แข็งแรงอยู่เสมอ ก็ยังไม่สายที่จะเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองตั้งแต่วันนี้

รวมบทความดีๆ เกี่ยวกับสุขภาพ การออกกำลัง โรคและการป้องกัน สาระดีๆ ที่ต้องรีบแชร์ต่อ
uHealthy.co ( ยู เฮลท์ตี้ )