หรือไม่? ทำไมการลดน้ำหนักของเราถึงไม่ได้ผล
“ออกกำลังกายก็แล้ว คุมอาหารก็แล้ว แต่ทำไมน้ำหนักแทบไม่ลดเลย?”
คุณเป็นคนหนึ่งที่เจอปัญหานี้อยู่หรือเปล่า? … ทั้งที่ไดเอทอย่างเข้มงวด แต่น้ำหนักกลับไม่ค่อยลงเท่าไหร่ หรือน้ำหนักลดแค่ช่วงแรกๆ แล้วกลับค้างอยู่อย่างนั้น
ถ้าใช่ ก็เป็นไปได้ว่าคุณกำลังทำ ‘ข้อผิดพลาด’ บางอย่างอยู่ จนทำให้การลดน้ำหนักไม่ได้ผล… วันนี้ทาง ยู เฮลท์ตี้ จะมาบอกว่าข้อผิดพลาดที่ว่ามีอะไรบ้าง แล้วคุณจะแก้ให้กลับมาถูกต้องได้ยังไง
กินน้อยเกินไป
หลักการลดน้ำหนักที่ดี ไม่ใช่การกินน้อยๆ หรืออดอาหารโดยสิ้นเชิง แต่ต้องกินให้พอดีและเหมาะสม เพราะหากเราได้รับพลังงานจากอาหารไม่เพียงพอต่อเนื่องกันนานๆ ร่างกายจะปรับเข้าสู่โหมดขาดแคลน และเร่งเก็บสะสมสารอาหารทุกอย่างไว้เป็นไขมัน ขณะเดียวกันก็จะสลายไขมันออกมาใช้น้อยลงด้วย เมื่อกินอะไรเข้าไปก็จะถูกเก็บเป็นไขมันหมด ไม่ยอมเผาผลาญออกมาใช้ ก็จะเกิดภาวะที่เรียกว่า ระบบเผาผลาญพัง และทำให้ยิ่งมีไขมันส่วนเกินมากขึ้น
ดังนั้น แทนที่จะกินน้อยๆ เราควรเปลี่ยนมากินให้เพียงพอตามที่ร่างกายต้องการ แต่ปรับสัดส่วนอาหารใหม่ โดยลดแป้ง ลดไขมันไม่ดี แล้วเน้นกินโปรตีน ผักผลไม้ และไขมันดีให้มากขึ้นแทนจะดีกว่า
ออกกำลังกายมากไป
การออกกำลังกายหนักและนานเกินไปใช่ว่าจะเป็นเรื่องดี โดยเฉพาะเมื่อรวมการกินไม่พอเข้าไปด้วยแล้ว แทนที่จะเร่งเผาผลาญ ก็อาจกลายเป็นทำให้การเบิร์นไขมันหยุดชะงัก จนหลายคนเจอปัญหาที่ว่ายิ่งออกกำลังกายเยอะน้ำหนักก็ยิ่งคงที่ แถมยังมีชั้นไขมันตรงพุงมาเป็นของแถมด้วย
ทาง HMM24 เลยขอแนะนำว่า สำหรับคนที่เน้นเรื่องลดน้ำหนักเป็นหลัก ควรออกกำลังกายเพียงวันละ 30 – 45 นาที โดยการคาร์ดิโอสลับสับเปลี่ยนกับเวทเทรนนิ่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบเผาผลาญ
พักผ่อนไม่เพียงพอ
ความรู้สึกอยากอาหารและอัตราการเผาผลาญของเราเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนสำคัญ 2 ตัว คือ เกรลิน (Ghrelin) ที่เพิ่มความรู้สึกหิว กับ เลปติน (Leptin) ที่ทำให้รู้สึกอิ่ม โดยมีการวิจัยพบว่า คนที่อดนอนประจำจะมีฮอร์โมนเกรลินเพิ่มขึ้น และฮอร์โมนเลปตินลดลง ทำให้รู้สึกหิวบ่อย กินเยอะ รวมถึงอัตราการเบิร์นแคลอรีก็น้อยลงด้วย จึงไม่ต้องแปลกใจถ้าเห็นว่าน้ำหนักขึ้นพรวดในช่วงที่อดนอนบ่อยๆ
ด้วยเหตุนี้ การนอนหลับให้เพียงพอจึงสำคัญอย่างยิ่งยวดสำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก
สนใจแต่เลขบนตาชั่ง
การที่ตัวเลขบนตาชั่งไม่ลดลง ไม่ได้หมายความว่าการลดน้ำหนักของเราล้มเหลวเสมอไป เพราะเมื่อเราออกกำลังกายอย่างถูกวิธี กินอาหารถูกสัดส่วน ไขมันส่วนเกินจะถูกกำจัดออกไป และได้มวลกล้ามเนื้อลีนๆ มาแทนที่ ทำให้น้ำหนักตัวดูไม่ค่อยลดลงเท่าไหร่
ดังนั้น แทนที่จะสนใจแค่น้ำหนักอย่างเดียว ให้ลองยืนหน้ากระจกเพื่อดูความเปลี่ยนแปลงของรูปร่างด้วย เพราะหุ่นเราอาจดูผอม ดูเพรียวลง ทั้งที่น้ำหนักยังเท่าเดิมก็ได้
ใครที่อ่านบทความนี้ของ ยู เฮลท์ตี้ แล้ว คงพอรู้แล้วใช่ไหมว่าเราพลาดตรงไหนบ้าง ส่วนอีกเรื่องที่ต้องระวัง ก็คือความเครียดวิตกกังวลเกินไปในเรื่องน้ำหนัก ซึ่งอาจทำให้การเผาผลาญเราแปรปรวนกว่าเดิม ทางที่ดีจึงควรทำใจให้สบาย และลดน้ำหนักอย่างค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า