ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการลดความอ้วนเป็นหนึ่งในเป้าหมายและความสนใจของผู้คนในทุกยุคทุกสมัย ซึ่งในปัจจุบัน ลดน้ำหนักแบบคีโต กำลังเป็นที่นิยมและถูกพูดถึงอย่างมาก กับอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลรูปร่างและควบคุมอาหารอย่างมีสุขภาพดี หรือที่หลายๆ คนมักจะพูดถึงการ กินคีโต หรือ คีโตเจนิค ไดเอท กันอยู่บ่อยๆ นั่นเอง แล้วการลดน้ำหนักแบบนี้เป็นอย่างไร คืออะไรกันแน่ ควรจะทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จและควรเริ่มต้นแบบไหนดี เราได้รวบรวมข้อมูลต่างๆ พร้อมเทคนิคสำคัญมาแนะนำ
ลดน้ำหนักแบบคีโต คืออะไร?
เป็นหนึ่งในการลดน้ำหนักที่เป็นเทรนด์มาแรงในตลอดหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นวิธีที่สามารถลดได้จริง ง่ายและปรับเปลี่ยนเข้ากับชีวิตประจำวันของผู้คนได้ไม่ยาก โดย การกินคีโต หรือ คีโตเจนิค ไดเอท )Ketogenic Diet) เป็นการลดน้ำหนักด้วยการเน้นทานอาหารที่มีไขมันดีและคาร์โบไฮเดรตในปริมาณที่น้อยมากที่สุด กล่าวคือ ทานอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลให้น้อยกว่า 50 กรัมต่อวัน เพื่อที่จะช่วยให้ร่างกายสามารถปรับตัวไปเข้าสู่ภาวะ Ketosis หรือ คีโตซีส ที่มีความสำคัญและประโยชน์ต่อร่างกายในหลายๆ ด้าน พร้อมช่วยดึงพลังงานจากไขมันเหล่านั้นมาใช้แทนพลังงานจากแป้ง น้ำตาลหรือคาร์โบไฮเดรตนั่นเอง
เพื่อเข้าสู่ภาวะ Ketosis ส่งผลให้เกิดผลดีในการลดความอ้วนของผู้คนทั่วไป รวมถึงผู้ป่วยในหลายๆ โรค ยกตัวอย่างเช่น โรคอัลไซเมอร์, โรคเบาหวาน, โรคอ้วน เป็นต้น ซึ่งการกินคีโตจะช่วยให้ระดับน้ำตาลและอินซูลินภายในเลือดลดลงอีกด้วย
สภาวะ Ketosis หลักการสำคัญ
เป็นการทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตและไขมันสูงให้น้อยมากที่สุด แต่เน้นการทานอาหารประเภทไขมันดี เพื่อที่จะควบคุมน้ำหนักและสร้างสุขภาพที่ดีให้แก่ร่างกาย ดึงร่างกายของคุณเข้ายังกระบวนการเผาผลาญ Ketosis ที่จะมีหลักการในการดึงพลังงานจากส่วนของไขมันมาใช้ทำหน้าที่แทนคาร์โบไฮเดรตให้น้อยมากที่สุด
กล่าวได้ว่า คีโตซิส คือสภาวะที่ร่างกายได้ปรับเปลี่ยนระบบเผาผลาญไขมันมาเป็นพลังงานแทน เนื่องจากร่างกายไม่ได้รับพลังงานหลักอย่างพวกไขมันสูงและคาร์โบไฮเดรต และจะมีการส่งสัญญาณออกมาว่าร่างกายของคุณเข้าสู่สภาวะดังกล่าวแล้ว ได้แก่ น้ำหนักที่ลดลงอย่างรวดเร็ว, อาการนอนหลับไม่หลับที่มักจะพบได้บ่อยในกลุ่มผู้ ลดน้ำหนักแบบคีโต ช่วงแรกๆ, และ มีกลิ่นปาก กลิ่นปัสสาวะ
ประเภทของการทานอาหาร
หลังจากที่ได้ทำความรู้จักเกี่ยวกับระบบการ ลดน้ำหนักแบบคีโต แล้ว มารู้จักเกี่ยวกับการกินคีโต ที่สามารถแบ่งได้เป็น 4 ประเภท หลักๆ โดยมีรายละเอียดต่อละประเภทดังต่อไปนี้
- Standard ketogenic diet (SKD)
SKD เป็นการกินคีโตที่เน้นไขมันในปริมาณสูงมาก โดยแบ่งออกเป็น ไขมัน 70% โปรตีน 20% และ คาร์โบไฮเดรต โดยจะรับคาร์โบไฮเดรตเข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่ต่ำมากที่สุด
- High protein ketogenic diet
สำหรับประเภทที่ 2 จะเป็นการกินไขมันที่สูง และโปรตีนในระดับปานกลาง และ คาร์โบไฮเดรตจะต่ำสุดเหมือนกับประเภทแรก โดยสูตรนี้จะเพิ่มการเพิ่มเติมโปรตีนให้มีสัดส่วนมากขึ้น แบ่งออกเป็น ไขมัน 60% โปรตีน 35% และ คาร์โบไฮเดรต 5%
- Cyclical ketogenic diet (CKD)
ต่อกันที่การกินคีโตแบบ CKD เป็นการทานคาร์โบไฮเดรตที่มีการออกแบบเป็นช่วงๆ ยกตัวอย่างเช่น การกินคีโค 5 วันและอีก 2 วันกินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตสูง นั่นเอง
- Targeted ketogenic diet (TKD)
ในประเภทสุดท้าย จะเป็นการกินคาร์โบไฮเดรตหลังจากที่ออกกำลังกายเท่านั้น แต่เวลาปกติจะกินคีโตตามปกติ
ในปัจจุบัน ประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ การกินคีโตแบบ Standard ketogenic diet (SKD) และ แบบ High-protein ketogenic diet
ข้อดี
นอกเหนือจากการ ลดน้ำหนักแบบคีโต จะช่วยลดความอ้วนได้อย่างรวดเร็วแล้ว ยังมาพร้อมกับการเป็นตัวช่วยในการดูแลสุขภาพหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น การลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ เนื่องจากการกินคีโตเข้าไปนั้นจะช่วยให้ร่างกายมีไขมันที่ลดลงและแสดงถึงโอกาสความเสี่ยงของโรคหัวใจที่ลดน้อย นอกจากนี้ยังส่งผลที่ดีต่อการลดลงของ โรคลมบ้าหมูหรืออาการชักในเด็ก ตลอดจนการบำรุงและฟื้นฟูระบบการทำงานของสมอง การช่วยรักษาและดูแลสมองที่ได้รับการบาดเจ็บ ตลอดจนการช่วยชะลอความเสี่ยงและลดอาการของการเป็นโรคอัลไซเมอร์
อาหารที่สามารถทานได้
สำหรับอาหารที่สามารถทานได้ในการ ลดน้ำหนักแบบคีโต แนะนำให้เน้น ไขมันและน้ำมันดีจากพืชและสัตว์ เช่น ชีส, เนย, น้ำมันมะกอก, อะโวคาโด, น้ำมันมะพร้าว เป็นต้น รวมถึงโปรตีน ที่เนื้อสัตว์จะต้องไม่มีการเสริมให้ความหวาน, ผักและผลไม้ แนะนำให้หลีกเลี่ยงผักประเภทเติบโตในดินและเน้นการทานผักใบเขียว, เครื่องดื่มที่ไม่มีการเสริมสารให้ความหวานและผลิตภัณฑ์จากนม เช่น เนยแท้, ครีมชีส หรือ ชีส เป็นต้น
และนี่ก็เป็นรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับเทคนิคการ ลดน้ำหนักแบบคีโต อีกหนึ่งเทรนด์ที่มาแรงพร้อมทั้งเต็มไปด้วยข้อดีในการควบคุมน้ำหนัก ลดความอ้วนอย่างมีสุขภาพที่ดี สำหรับใครที่สนใจ แนะนำให้ศึกษาอย่างครบถ้วนและละเอียด ไปพร้อมๆ กับการศึกษาเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจากเว็บไซต์ uHealthy.co ที่ได้รวบรวมเอาไว้อย่างครบครัน รวมถึงนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอและหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
รวมบทความดีๆ เกี่ยวกับสุขภาพ การออกกำลัง โรคและการป้องกัน สาระดีๆ ที่ต้องรีบแชร์ต่อ
uHealthy.co ( ยู เฮลท์ตี้ )