Home อาหารเพื่อสุขภาพ 10 ข้อต้องรู้ก่อนที่จะรับประทานตำลึง

10 ข้อต้องรู้ก่อนที่จะรับประทานตำลึง

ตำลึง

ตำลึง : 10 ข้อต้องรู้ก่อนที่จะรับประทานตำลึงเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อร่างกาย ตำลึงเป็นผักสมุนไพรที่ขึ้นได้ง่าย ขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา ตำลึงจึงเป็นผักที่หลายคนนิยมนำมาบริโภค เพราะว่าหาได้ง่ายและมีประโยชน์ต่อร่างกาย บางครั้งเราอาจจะรู้สึกเฉยๆไม่ได้รู้สึกว่าตำลึงมีสรรพคุณที่วิเศษมากมายอะไร เพราะเราเห็นกันบ่อยจนคุ้นชิน จนรู้สึกว่าเป็นเพียงผักธรรมดาชนิดหนึ่งเท่านั้นที่ใช้เป็นอาหาร

ตำลึง ชื่อในทางวิทยาศาสตร์ คือ Coccinia grandis L. Voigt เป็นไม้เลื้อยในวงศ์แตง ที่มีมือจับไว้ใช้เลื้อยเกาะต้นไม้น้อยใหญ่หรือไม้ปักหลัก รวมไปถึงวัตถุสิ่งของ ตำลึงมีสีเขียวจัดเป็นสมุนไพรไทย ภาคเหนือ เรียกว่า ผักแคบ ส่วนในกลุ่มกะเหรี่ยงและแม่ฮ่องสอน เรียกว่า แคเด๊าะ  ภาคกลาง เรียกว่า ตำลึง, สี่บาท ส่วนภาคอีสาน เรียกว่า ผักตำนิน

10 ข้อต้องรู้ก่อนที่จะรับประทานตำลึง

ลักษณะของตำลึง

ลำต้นเป็นเถาไม้เลื้อยเนื้อแข็ง ใบเดี่ยว ใบมีลักษณะเป็น 3 แฉก และ 5 แฉก ความกว้างและความยาวประมาณ 4-8 เซนติเมตร บริเวณโคนใบเป็นรูปหัวใจ เป็นดอกเดี่ยวหรือดอกคู่ ลักษณะเหมือนรูประฆัง ดอกมีกลีบสีขาว แยกเพศโดยอยู่คนละต้น บริเวณที่ดอกออกอยู่ตรงซอกใบ ผลมีลักษณะเป็นวงรี ยาว สีเขียวอ่อน เมื่อแก่จัดจะเป็นสีแดง ซึ่งนกนานาชนิดชื่นชอบมาก

10 ข้อที่เราต้องรู้เกี่ยวกับตำลึงว่ามีประโยชน์มากมาย เวลาที่เรารับประทานเราจะได้เข้าใจในประโยชน์ของตำลึงแล้วเราจะมีความรู้สึกพิเศษต่อตำลึงมากขึ้นกว่าเดิม

ตำลึงมีสารอาหารมากมายโดยมีการศึกษาและพบว่า ตำลึงประกอบไปด้วยโปรตีน เส้นใยอาหาร วิตามินนานาชนิด และเกลือแร่หลากหลาย เช่น แคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส ไนอาซีน โดยเฉพาะเบต้าแคโรทีนในตำลึงเรียกได้ว่าสูงกว่าฟักทองและมันเทศ นอกจากนี้ตำลึงมีสรรพคุณทางด้านสมุนไพรที่ช่วยรักษาและป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากๆ

ประโยชน์ 10 ข้อที่เราต้องรู้เกี่ยวกับตำลึง

  1. ตำลึงมีคุณค่าทางอาหารสูง มีสารอาหารสูงมากจึงมีประโยชน์ต่อคนทุกวัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือเพิ่งคลอด เพราะลูกต้องการสารอาหารอย่างครบถ้วนเพื่อเข้าไปช่วยบำรุงร่างกาย และจะช่วยให้คุณแม่มีน้ำนมมากขึ้น เรามักจะได้ยินเสมอว่าผู้หญิงหลังคลอดเขาจะให้ทานแกงจืดตำลึง เพราะว่าทำให้ทารกได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์อย่างเต็มที่ ตำลึงยังเป็นแหล่งของวิตามินบีสาม ซึ่งจะช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูมีน้ำมีนวล ใครที่มีปัญหาของผิวหนังแห้งก็จะทำให้ผิวหนังชุ่มชื้น เต่งตึง ผิวพรรณผ่องใส และที่สำคัญช่วยซ่อมแซมสร้างเนื้อเยื่อภายในร่างกาย

2.มีวิตามินเอสูงมากซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยบำรุงและรักษาสายตา เหมาะกับผู้ป่วยที่มีอาการของตามัว เพราะขาดวิตามินเอ รวมถึงผู้ที่นั่งอยู่หน้าคอมนานๆ ป้องกันจอประสาทตาเสื่อม แก้อาการตาฝ้า ทำให้สายตาเป็นปกติ ช่วยให้ปรับสายตาได้ดีในที่มืด สามารถมองเห็นได้ชัดในที่มืด และป้องกันโรคตาบอดในตอนกลางคืน

3.ตำลึงอุดมไปด้วยแคลเซียมซึ่งเป็นสาระของการช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง ซึ่งมีมากพอๆกับนมสด และเป็นแร่ธาตุที่มีความจำเป็นต่อทุกคน โดยเฉพาะวัยสูงอายุ และในผู้หญิงที่ต้องการแคลเซียมอย่างสม่ำเสมอ เพราะจะช่วยในเรื่องของการป้องกันกระดูกพรุน และกระดูกไม่ให้แตกหัก

4.ตำลึงมีสรรพคุณที่ช่วยรักษาอาการของโรคเบาหวานได้ มีหลายการศึกษาและงานวิจัยที่บ่งชี้ว่าตำลึงจะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้น้ำตาลอยู่ในระดับคงที่ และสมัยก่อนก็ได้มีการนำตำลึงมาใช้เพื่อรักษาเบาหวานด้วย ตำลึงจึงเปรียบเสมือนยารักษาโรคเบาหวานมานานหลาย 100 ปี แต่คนไข้ที่เป็นโรคเบาหวานไม่ใช่รู้ว่าตำลึงมีประโยชน์มาก ก็ทานผลไม้ต่างๆของหวานต่างๆได้ เราก็ต้องระมัดระวังสุขภาพของเราอยู่เสมอด้วยค่ะ

5.ตำลึงมีฤทธิ์ในการช่วยบำรุงเลือด

6.ตำลึงมีเส้นใหญ่อาหารที่จะช่วยในการขับถ่ายเป็นปกติ ลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการท้องผูก ป้องกันโรคริดสีดวง ช่วยระบายท้อง ขับสารพิษออกจากลำไส้ และยังเหมาะกับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนักหรือลดน้ำหนัก

7.มีสารต้านอนุมูนอิสระ ที่เป็นประโยชน์ต่อการป้องกันความเสื่อมของเซลล์ต่างๆภายในร่างกาย ช่วยชะลอความชราได้ดี และสามารถป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง โดยจะช่วยขับสารพิษที่เป็นสาเหตุการก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้

8.ช่วยบำรุงหัวใจ สามารถป้องกันโรคหัวใจหัวใจขาดเลือดได้ รวมทั้งช่วยป้องกันการเกิดอัมพาตได้ด้วย และโดยเฉพาะในผู้สูงอายุจะมีอาการผิดปกติ บางครั้งหัวใจเต้นเร็ว บางครั้งรู้สึกใจสั่น บางครั้งรู้สึกเหนื่อยง่าย บางครั้งรู้สึกจะเป็นลม เราต้องป้องกันการเกิดอาการอัมพาต โดยควรเช็คว่ามีปัญหาในเรื่องของความดันหรือไม่ และต้องรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ หากมีอาการผิดปกติอะไรให้ไปพบแพทย์ทันทีเพราะอาจจะเกิดภาวะที่เรียกว่าเส้นโลหิตในสมองแตกได้ เมื่อเกิดภาวะนี้แล้วอาจจะทำให้เป็นอัมพาตและทำให้ใช้ชีวิตลำบากมากขึ้น

9.มีฤทธิ์ในการช่วยแก้พิษ ลดไข้ ช่วยแก้ร้อนใน มึนหัว วิงเวียนศรีษะ แก้อาการอาเจียน และยังมีสรรพคุณแก้คัน และการลดอักเสบจากพิษแมลงสัตว์กัดต่อยได้

  1. มีประโยชน์ในการปรุงอาหารด้วยการนำตำลึงทั้งแก่และอ่อนใส่ลงไปในหม้อต้มน้ำซุปต่างๆ จะทำให้รสชาติมีหวานกลมกล่อม
ตำลึง

กล่าวโดยสรุป

ตำลึง ชื่อในทางวิทยาศาสตร์ คือ Coccinia grandis L. Voigt เป็นไม้เลื้อยในวงศ์แตง ที่มีมือจับไว้ใช้เลื้อยเกาะต้นไม้น้อยใหญ่หรือไม้ปักหลัก รวมไปถึงวัตถุสิ่งของ ตำลึงมีสีเขียวจัดเป็นสมุนไพรไทย ลำต้นเป็นเถาไม้เลื้อยเนื้อแข็ง ใบเดี่ยว ใบมีลักษณะเป็น 3 แฉก และ 5 แฉก ความกว้างและความยาวประมาณ 4-8 เซนติเมตร บริเวณโคนใบเป็นรูปหัวใจ เป็นดอกเดี่ยวหรือดอกคู่ ลักษณะเหมือนรูประฆัง ดอกมีกลีบสีขาว แยกเพศโดยอยู่คนละต้น บริเวณที่ดอกออกอยู่ตรงซอกใบ ผลมีลักษณะเป็นวงรี ยาว สีเขียวอ่อน เมื่อแก่จัดจะเป็นสีแดง นอกจากนี้ตำลึงมีสรรพคุณทางด้านสมุนไพรที่ช่วยรักษาและป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากๆ ดังบทความข้างต้น

แล้วพบกันใหม่กับสาระดี ๆในบทความเพื่อสุขภาพ เรื่องราวการดูแลสุขภาพจาก uHealthy.co  ในบทความต่อไปกันนะคะ

 

Exit mobile version